Review – Warhammer: Vermintide 2
เป็นเกม Co-op 4 คนที่ถูกพัฒนาต่อมาจากภาคแรกในชื่อ Warhammer: End Times – Vermintide วางขายเมื่อปี 2015 กับการเปลี่ยนแปลงแนวเกม Warhammer ให้เป็นเกม Co-op ร่วมมือกับเพื่อนตะลุยไล่ฆ่ากองทัพผีปีศาจและในปี 2018 ผู้พัฒนาก็สานต่อความมันส์นี้อีกครั้งในชื่อ Warhammer: Vermintide 2 ที่ยกระดับความมันส์ขึ้นกว่าเดิม
ใน Warhammer: Vermintide 2 จะยังคงรูปแบบการเล่นเหมือนเดิมคือสไตลื Action Co-op กับเพื่อน 4 คนทำภารกิจให้สำเร็จกับการไล่ฆ่าเหล่าปีศาจแห่ง Skaven ให้หมดซึ่งถ้าใครเคยเล่น Left 4 Dead ก็จะคุ้นเคยดีเพราะมันคือแนวเดียวกันเพียงแค่เกมนี้เปลี่ยนธีมเป็นโลกแฟนตาซีและมีสายอาชีพให้เลือกเล่นด้วย
ทางด้านอาชีพในภาค 2 จะมีสายอาชีพให้เลือกถึง 5 อาชีพ (นักดาบ , เอลฟ์นักธนู , คนแคระใช้ขวาน , นักฆ่า , จอมเวทย์) ก็จะมีความสามารถการใช้อาวุธต่างกันไปโดยจะไม่มีใครเสียเปรียบได้เปรียบแต่ทุกอาชีพจะเกื้อหนุนซึ่งกันและกันโดยตรงนี้ก็เลือกตามชอบได้เลยว่าอยากเล่นอะไรแต่ถ้าเลือกแล้วไม่ถูกใจก็เปลี่ยนอาชีพได้ในห้อง Lobby
ข้อดีของ Vermintide 2 ที่รู้สึกได้แต่แรกเลยก็คือบรรยากาศความรู้สึกร่วมในเกมที่ให้ความกดดันระทึกใจเวลาพวกศัตรูถาโถมเข้ามาเพราะในแต่ละระลอกไม่ได้มาแค่หยิบมือแต่มันยกโขยงกันทั้งกองทัพแถมยังต้องอาศัยทีมเวิร์คร่วมกันและใช้ไอเท็มเพิ่มพลังให้ถูกจังหวะ
ระยะเวลาของแต่ละภารกิจก็ถือว่านานพอควรโดยจะใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 20-30 นาทีจะมีประมาณ 13 เลเวลให้ต้องฟันฝ่าถ้าหากเกิดพลาดท่าต้องเริ่มเล่นใหม่ก็อาจจะมีความรู้สึกเบื่อ ๆ กันบ้างครับฉะนั้นแล้วก็ยิ่งตอกย้ำว่าการเล่นเป็นทีมคือหัวใจหลักของ Vermitide 2 จริง ๆ
ทางด้านศัตรูที่บอกไปว่ามาเป็นกองทัพก็มีหลากหลายประเภทครับทั้งแบบลูกกระจ๊อกธรรมดาไปจนถึงมีตัวโหด ๆ เอาลงได้ยากด้วยซึ่งก็ขึ้นอยู่กับระดับเลเวลแต่ถ้าจะให้ดีควรจัดการพวกตัวโหด ๆ ให้ตายก่อนจะดีกว่าและการที่พวกมาถาโถมเข้ามาไม่ขาดสายแม้จะเป็นศัตรูธรรมดา ๆ ก็อย่าได้ประมาทไป
นอกจากนี้จุดเกิดของศัตรูก็มีแบบสุ่มบางทีมันอาจจะมาเซอร์ไพรซ์ซุ่มโจมตีผู้เล่นข้าง ๆ หรือพุ่งเข้าชาร์จจากความมืดก็ได้ตรงจุดนี้ก็ต้องอาศัยความช่างสังเกตุกันหน่อยแต่ถ้ามีทีมดีก็รับมือได้ไม่ยากครับแถมยังได้ความมันส์กลับมาด้วย
ถึงแม้สไตล์การเล่นจะเหมือนกับ Left 4 Dead แต่ก็ใช่ว่าจะเหมือนเป๊ะซะทีเดียวครับโดยใน Vermitide 2 จะมีจุดต่างตรงที่ระบบหลังบ้านเมื่อทำภารกิจเสร็จจะมีห้อง Lobby ให้เราได้อัพเกรดทักษะตัวละครให้สูงขึ้น ระดับเลเวลแต่ละด่านหลากหลายไม่ซ้ำซาก , ค่าพลังที่เอาไว้ปลดล็อคระดับความยากของเกม
ยังไม่หมดแค่นั้นมันยังมีระบบคราฟ/ย่อยของเราสามารถนำของที่ไม่ได้ใช้หรือของที่ Loot มาแต่ไม่ต้องการจะใช้ก็นำไปย่อยได้โดยจะได้วัตถุดิบสำหรับผสมของมาหรือสายอาชีพทั้ง 5 จะมีท่าสกิลประจำอาชีพบวกกับอาวุธก็มีให้เล่นหลายชนิดจะมีคุณสมบัติต่างกันไปอีกดังนั้นมันจึงทำให้ Vermitide 2 เป็นเกม Action ที่มีส่วนผสมของความเป็นเกม RPG หน่อย ๆ
0 item total: 0 บาท |