เป็นเวลากว่า 2 ปีที่ Starbound อยู่ในช่วง Early Access มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเสริมลูกเล่นมากมาย กว่าจะกลายมาเป็น Starbound 1.0 ตัวเกมอย่างเป็นทางการที่ปล่อยให้นักสำรวจดวงดาว..

 

Starbound เป็นเกม Sandbox ที่มอบอิสระอันเหลือล้นให้กับเพื่อน ๆ ทำอะไรได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการออกผจญภัยสำรวจดาวดวงใดก็ได้ ขอแค่เพียงมีเชื้อเพลิงยาน มีสิ่งของให้เลือก Craft มีอาวุธให้เลือกสวมใส่มากมาย กระนั้นก็ยังมีเนื้อหา มี Story ที่เป็นเควสหลักคอยชี้เส้นทางให้เพื่อน ๆ มุ่งตรงไปข้างหน้า ไม่หลักลอยเพียงแค่หาแร่ เก็บของ เอาชีวิตรอดไปวัน ๆ เท่านั้น แต่เพื่อน ๆ จะเลือกทำเควสหลักทันทีหรือจะรอเก็บทรัพยากรให้มากเท่าที่ต้องการ ก่อนจะทำเควสก็ได้อีกเช่นกัน แถมยังมีลูกเล่นปลีกย่อยอย่างการจับสัตว์ หาลูกเรือ(ที่เป็น NPC) ทำนองนี้เยอะแยะไปหมด เรียกว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวเหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่มองหาเกม Sandbox , Survival ที่เป็น Theme อวกาศเป็นอย่างยิ่ง 

กราฟฟิกตัวเกม Starbound ถูกนำเสนอในรูปแบบแบบ Pixel 2D มีเพลงประกอบไพเราะ ๆ คอยสร้างบรรยากาศร่วมให้กับผู้เล่นหลากหลายอารมณ์ไม่ว่าจะเป็นเพลงช้าฟังสบาย ๆ หรือ เร่งเร้าให้ตื่นเต้นตอนต่อสู้กับบอส แล้วยังเป็นเกมที่ได้รับรางวัล Indie Of The Year ในปี 2013 , PC Gamer Top 100 และการวิจารณ์จากผู้เล่นบน Steam ในแง่บวก 89% จาก 53,826 บทวิจารณ์ พอจะเป็นตัวบ่งชี้ได้ไม่มากก็น้อยว่า Starbound เป็นหนึ่งในเกมที่น่าสนใจ น่าหยิบมาลองเล่นสักครั้งหนึ่ง 

 

Story ของเกมเริ่มต้นในวันที่ดาวของเราถูกปีศาจ(หนวดหมึก ?) บุกโจมตีอย่างกะทันหัน จนเราต้องรีบขึ้นยานหนีออกจากดาวสู่อวกาศอันกว้างใหญ่ แล้วยานที่เราขับออกมาดันเสียหายซะนี่ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการออกผจญภัยสำรวจดวงดาว ค้นหาทรัพยากรเพื่อเอาชีวิตรอด การพานพบกับเผ่าพันธุ์ในห้วงอวกาศมากมาย และท้ายที่สุดข่าวคราวการคืบคลานของมหันตภัยร้ายที่จะทำลายอวกาศ ที่เราต้องหาวิธีหยุดยั้งมัน! 

 

 

สำหรับส่วนของ Gameplay เริ่มต้นที่เราสามารถสร้างตัวละครได้ถึง 7 เผ่าพันธุ์ ที่มีรูปร่างหน้าตา อารยธรรม รวมถึงรูปแบบเครื่องแต่งกายที่แตกต่างกันสามารถตั้งชื่อตัวละครให้บ่งบอกความเป็นตัวเราได้ และท้ายสุดเพื่อน ๆ สามารถเลือก Game modes ได้ถึง 3 รูปแบบ Casual  Survival  Hardcore 

 

ในส่วนของดวงดาวที่เราออกสำรวจก็มีหลากหลายรูปแบบ แถมในแต่ละดวงดาวยังถูกแบ่งแยกย่อยออกเป็นระบบ Biome และ Mini-Biome สร้างความหลากหลายให้กับการผจญภัยได้อีก 

ดาวที่ปกคลุมด้วยพายุหิมะก็มี 

 

ดวงดาวที่อารยธรรมอยู่ใต้น้ำก็ดูเจ๋งชะมัด 

 

การเดินทางระหว่างดวงดาวนั้น หากเป็นดาวในระบบสุริยะเดียวกัน เพื่อน ๆ สามารถเดินทางข้ามดาวได้ฟรี ๆ โดยไม่ใช้พลังงานสักหน่วยเดียว แต่หากต้องเดินทางไกลข้ามระบบสุริยะแล้วล่ะก็มีความจำเป็นต้องหาเชื้อเพลิงเติมให้ยานเสียก่อน ซึ่งสามารถหาได้จากการขุดแร่ ดูดเชื้อเพลิงบนดวงจันทร์ของดาวต่าง ๆ หรือ ไม่ก็หาซื้อได้จากร้านค้าที่ Outpost ที่มีสินค้ามากมายให้เราจับจ่ายใช้สอยตั้งแต่ของกิน สัตว์เลี้ยง เชื้อเพลิง บัตร Upgrade ยาน ไปยันรถยนต์!! 

 

ในหน้าต่างค้นหาดวงดาว จะบ่งบอกรูปแบบของดาวดวงนั้น ๆ พร้อมกับรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับดาวดวงนั้น ทั้งทรัพยากรและสภาพอากาศ รวมถึงค่าเชื้อเพลิงที่จำเป็นในการเดินทางไปยังดาวนั้น ๆ แถมเพื่อน ๆ สามารถสร้าง Bookmark ช่วยจดจำดาว หรือ เปิดหา Bookmark ได้จากหน้าเมนูนี้อีกด้วย 

 

พอเราได้พิกัดดาวที่เราอยากจะเดินทางไปสำรวจมาแล้ว ก็อย่าลืมจัดการยัดเชื้อเพลิงใส่ยานไว้ด้วยล่ะ ยานจะได้บินฉิวไปยังดาวเป้าหมายด้วยความเร็วแสง! 

 

การเก็บทรัพยากรในดาวแต่ละดวงไม่ว่าจะเป็นแร่ ไม้ หรือ บล็อกพื้นผิว ก็ทำได้ง่าย ๆ ด้วยเครื่องมือ Matter Manipulator ที่ตัวเกมมีให้เราตั้งแต่จบ intro ของเกม หรือจะเก็บ Pixel (ค่าเงินของตัวเกมที่หาได้จากการฆ่ามอนสเตอร์ ขาย item แก่ npc หรือย่อย item ผ่านเครื่องมือ) ไปซื้อเครื่องมือสำหรับขุดก็ได้ 

 

แถมยังมีระบบให้เรา Upgrade Matter Manipulator ให้มีลูกเล่นมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม 

 

พอเราได้ทรัพยากรมาจำนวนหนึ่ง เราก็สามารถนำมา Craft สร้างสิ่งของต่าง ๆ ได้ ซึ่งระบบการ Craft ของ Starbound ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านเมนูการ Craft ติดตัวละคร หรือ โต๊ะ Craft ที่จะบ่งบอกรายละเอียด item แต่ละชิ้นทั้งวัตถุดิบและสรรคุณของสิ่งนั้น ๆ  แถมการ Craft ยังมีให้เราเลือกสร้างมากมายตั้งแต่โต๊ะ Craft เครื่องผ้า อาวุธ ยา ยันเฟอร์นิเจอร์เพื่อความสวยงามกันเลย 

 

 

 

นอกจากจะ Craft อาวุธ เครื่องสวมใส่ให้ตัวละครเราแกร่งขึ้นได้แล้ว Starbound ยังมีระบบ Tech ให้เราเลือกปลดล็อคความสามารถพิเศษต่าง ๆ จาก Tech Card ที่หาได้จากหีบสมบัติตามดาวต่าง ๆ ได้อีกต่างหาก 

 

เมื่อมีเฟอร์นิเจอร์และบล็อกมากพอ ก็สามารถนำมาสร้างบ้านในรูปแบบของตัวเองได้ จะแบ่งสัดส่วนไว้สำหรับเป็น Farm ไว้ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์คอยเก็บทรัพยากรจากพวกมันก็ได้เหมือนกัน 

 

ในส่วนระบบ Quest ของ Starbound แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่คือ Quest หลักที่คอยบอกเล่าเรื่องราวของตัวเกมและช่วยชี้ทางผู้เล่นไปยังแหล่งทรัพยากรใหม่ ๆ และ Quest รองที่เป็นเนื้อหาของตัวแต่ละตัวที่เรารับ Quest จากเขา เพื่อน ๆ สามารถตรวจดูได้ง่าย ๆ ด้วยการ "J" ซึ่งนอกจากจะบอกรายละเอียดของ Quest ต่าง ๆ แล้วยังบอกรางวัลที่เราจะได้จากการทำ Quest อีกด้วย 

 

Quest หลักนอกจากจะต้องไปสำรวจอารยธรรมของเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ แล้วมักจะจบลงที่การทำ Mission ของเผ่าพันธุ์นั้น ๆ และในท้ายสุดมักจะมี Boss ออกมาให้เราปราบมัน เรียกว่าเป็นความท้าทายที่สร้างสีสันให้กับการเล่น Starbound อย่างยิ่งเลยล่ะครับ 

 

มีทั้ง UFO เพนกวินสุดแสนน่ารัก 

 

มังกรกระดูก ? แสนดุร้าย 

 

และ... ดวงตา ? เป็นต้น 

 

นอกจากนี้การสำรวจดวงดาวต่าง ๆ มีโอกาสที่เราจะได้ Quest รอง จากเผ่าพันธุ์บนดวงดาวนั้น ๆ ให้เรา Farm item ของรางวัลจาก Quest ได้อีกต่างหาก 

 

 

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจ Starbound นะครับ
- Starbound สามารถร่วมเล่น Co-op กับผู้เล่นอื่นได้ เล่นด้วยกันเป็นแก๊ง ความสนุกสุดมันก็ยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก!
- Starbound เป็นเกมที่ค่อนข้างกินทรัพยากรค่อนข้างมาก มีปัญหากระตุก หรือ Drop ในฉากที่มี Effect เยอะ ๆ อยู่บ้าง (ผมเป็นเพียงแค่ Mission เดียว นอกนั้นเดินลื่น เล่นสบาย ๆ ครับ) และ อาการ Load Map ไม่เสร็จ ไม่ทันอยู่บ้างเล็กน้อย - แม้เล่นจบ Story ไปแล้ว ก็ยังสามารถออกเดินทางสำรวจดวงดาวเพื่อค้นหาอุปกรณ์ และ Blueprint สำหรับสร้าง item ใหม่ ๆ ได้อีกนาน 

หากเพื่อน ๆ สนใจเกมนี้ สามารถซื้อ Starbound เกมท่องอวกาศที่มีลูกเล่นโคตรจะเยอะได้ผ่าน Steam ในราคา 315 บาทเท่านั้น (http://store.steampowered.com/app/211820/) แล้วพบกันใหม่คราวหน้านะครับ สวัสดีครับ