สุดยอดเกมส์แอคชั่นต่อสู้ผจญภัยที่ยอดเยี่ยมที่สุดประจำปี 2014 ที่ถูกนำมาอัพเกรดงานภาพใหม่

 

 

 

 

Dark Souls II: Scholar of the First Sin คืออะไร ???

เกมส์ดาร์คโซล2 นำทีมสร้างโดยคุณฮิเดทากะ มิยาซากิ ผู้ให้กำเหนิดเกมส์ Demon’s Souls สุดยอดเกมส์แนวต่อสู้ผจญภัยที่เน้นความสมจริงในการบังคับ ที่ผู้เล่นต้องใช้ทักษะในการบังคับที่สูงพอสมควร เพื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์จอมโหดหลากหลายชนิด ที่การช่วงชิงจังหวะในพริบตามีผลกับการต่อสู้ คนที่รับความยากระดับนี้ไม่ไหวอาจจะปาเกมส์นี้ทิ้งไปเลยก็ได้ แต่คนที่เข้าถึงความสนุกของมันอาจถึงขึ้นเสพติดงอมแงมเลยทีเดียว

 

หลังจากประสบความสำเร็จกับ Demon’s Souls คุณฮิเดทากะ ได้พัฒนาเกมส์ต่อเนื่องและเปลี่ยนชื่อเป็น Dark Souls ภาคแรก ที่ประสบความสำเร็จต่อเนื่องและ Dark Souls II ก็ออกตามมาและถือได้ว่าได้ขึ้นแท่นเป็นสุดยอดเกมส์แอคชั่น+ต่อสู้+ผจญภัย ในยุคนี้เลยก็ว่าได้

 

และด้วยการมาของเครื่องยุคใหม่อย่าง PS4 และ Xbox-One ทางผู้ผลิตจึงได้เกิดไอเดียที่จะอัพเกรดงานภาพของ Dark Souls II ให้สวยงามมากยิ่งขึ้นพร้อมรวบรวมเนื้อหา DLC ทั้งหมดอีก3ฉากนั่นคือ

Crown of the Sunken King – 22/7/2014
Crown of the Old Iron King – 26/8/2014
Crown of the Ivory King – 30/9/2014

เพื่อให้แฟนๆได้สัมผัสความมันกันอีกครั้งในชื่อ Dark Souls II: Scholar of the First Sin

 

 

 

 

 

 

เนื้อเรื่อง / Story

เรื่องราวของอันเดทผู้ถูกคำสาบให้มีชีวิตอมตะ และเมื่อตายก็จะพื้นขึ้นมาในร่างของผีดิบเมื่อตายซ้ำๆร่างกายจะอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ และเพื่อที่จะถอนคำสาบนี้จึงได้เดินทางมาสู่ดินแดง Drangleic ที่สถิตของจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่จะสามารถล้างคำสาบนี้ได้ เมื่อมาถึงหมู่บ้าน Majula เราจะได้พบกับหญิงสาวนามว่า Emerald Herald เธอจะแนะนำว่าให้เราออกตามหา 4 บุคคลสำคัญผู้มีพลังวิญญาณสูงส่ง หนึ่งในนั้นคือ Vendrick King กษัตริย์แห่งอณาจักร Drangleic

 

เริ่มออกผจญภัยฝ่าด่านมอนสเตอร์สุดหินจนมาถึงปราสาท Drangleic จนได้พบกับราชินีที่ชื่อ Nashandra เธอจะขอร้องให้เราช่วยตามหาตัวพระราชา Vendrick ที่กลายร่างเป็นอันเดทแล้วหายตัวไป เริ่มออกผจญภัยฝ่าด่านมอนสเตอร์และบอสจอมโหดที่รอคอยอยู่ทั้ง มังกรในตำนาน และ ราชายักษ์ จนสามารถเข้าไปดูความทรงจำในอดีต และได้พบกับความจริงว่า นี่คือแผนการของราชินี Nashandra ที่หลอกใช้เราเพื่อเปิดประตูนรก เธอเปิดเผยร่างที่แท้จริงและกลายร่างเป็นบอสใหญ่ และเมื่อสามารถปราบเธอลงได้ เราก็จะขึ้นครองบัลลังและกลายเป็นกษัตริย์องค์ใหม่แห่งอณาจักร Drangleic

 

 

 

 

 

Gameplay

เริ่มต้นเกมส์เราจะได้สร้างตัวละคร และเลือกอาวุธหลัก1ชนิดที่จะใช้ในช่วงเริ่มต้นเกมส์ แต่ก็สามารถหาอาวุธชนิดอื่นมาใช้ได้ในภายหลัง ซึ่งอาวุธแต่ละชนิดก็จะมีรูปแบบการโจมตีและจังหวะเข้าตีที่แตกต่างกันไป โดยมีอาวุธทั้งหมดให้เลือกดังนี้

 

Daggers / Straight Swords / Great swords / Ultra Greatswords / Curved Swords / Katanas / Curved Greatswords / Piercing Swords / Axes / Great Axes / HammersGreat / Hammers / Fist & Claw /Spears / Halberds / Lances / Reapers / TwinBlades / Whips / Bows / Greatbows / Crossbows / Flames / Chimes / Staves

 

 

 

ระบบต่อสู้

รูปแบบการต่อสู้เน้นไปที่การประจันหน้าต่อสู้แบบ 1-1 กับศัตรูขนาดใหญ่ ที่ต้องใช้การอ่านจังหวะการโจมตีของศัตรูที่แม่นยำ ทำการป้องกันหลบหลีก แล้วฉวยโอกาสเข้าตีด้วยอาวุธที่ถืออยู่ในจังหวะที่ศัตรูเสียจังหวะ แล้วรีบถอยออกมาตั้งหลักรอจังหวะเข้าตีใหม่

 

 

ในขณะต่อสู้ผู้เล่นจำเป็นต้องใช้สมาธิที่สูงมากในการอ่านจังหวะเคลื่อนไหวของศัตรู หากพลาดแม้เพียงครั้งเดียวจะตายได้เลย แต่ก็ยังสามารถคืนชีพกลับมาแก้ตัวใหม่ในร่างผีดิบด้วยพลังที่อ่อนแอลง โดยพลังจะลดลงมากสุดแค่ครึ่งหนึ่งและจะไม่ลดต่ำลงไปมากกว่านั้น การจะฟื้นพลังให้เต็มอีกครั้งทำได้โดยการคืนร่างเป็นมนุษย์จากไอเทม Human Effigy

 

 

 

การเดินเรื่อง

ตัวเกมส์จะแยกพื้นที่ต่างๆเป็นฉากขนาดใหญ่หลายๆฉาก การเล่นในแต่ละฉากให้เราหาทางบุกทะลวงมอนสเตอร์ระหว่างทางเพื่อผ่านไปยังฉากต่อไป โดยแต่ละฉากก็มักจะมีบอสใหญ่สุดโหดระดับยากนรกแตกรอคอยเราอยู่ที่ปลายทาง และในแต่ละฉากก็จะมีจุดเซฟที่เป็นกองไฟ ทุกครั้งที่เราตายจะมาเกิดใหม่ที่จุดนี้ และกองไฟยังใช้เป็นจุดวาร์ปสำหรับเดินทางไปฉากอื่นๆที่เราเคยผ่านมาได้ด้วย

 

 

 

 

ระบบออนไลน์ Multiplay

เราสามารถชวนเพื่อนที่เล่นเกมส์นี้เหมือนกัน เข้ามาในโลกของเราเพื่อช่วยกันสู้กับมอนสเตอร์จอมโหดทั้งหลายที่ไม่สามารถเล่นให้ผ่านได้ด้วยตัวคนเดียว นอกจากนั้นเพื่อนที่ชวนมายังสามารถมาประลองฝีมือสู้กับเราได้ด้วย

 

 

 

สิ่งที่เพิ่มมาในภาคนี้

สิ่งที่เห็นได้ชัดสำหรับเวอชั่น PS4 Xbox-One คืองานภาพกราฟิกที่สวยขึ้นมากพอสมควร แต่รูปแบบการเล่นและเนื้อเรื่องทั้งหมดยังคงเดิม ที่เพิ่มมาคือเนื้อหา DLC 3ฉากที่เพิ่มเข้ามาภายหลัง ก็ได้ถูกนำมารวมไว้ในภาคนี้ทั้งหมด

 

 

Crown of the Sunken King

ฉากปิรามิดและถ้ำใต้ดินที่เก็บซ่อนมงกุฎของ Vendrick King

 

 

 

 

Crown of the Old Iron King

ฉากหอคอยขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำ ดึงมงกุฎของ Old Iron King เพื่อเปิดเส้นทางลับ

 

 

 

 

Crown of the Ivory King

ฉากวิหารโบราณที่อยู่ท่ามกลางพายุหิมะที่หนาวเย็น ที่เป็นอุปสรรคต่อการมองเห็นสิ่งรอบข้าง

 

 

 

Screenshot