• login
  • register
  • How to
  • product
  • game pc
  • Promotion

Flash banner right

5 เทคโนโลยีสุดเจ๋งแห่งวงการเกมประจำปี 2018

 น่าจะเป็นความมหัศจรรย์ของโลกใบนี้กับวงการที่ได้เกื้อหนุนกันและขาดออกจากกันไม่ได้อย่าง “วงการเกม” และ “วงการไอที” ที่เปรียบได้ดั่งปาท่องโก๋ที่ต้องอยู่คู่กัน เพราะถ้าหากไม่มีวงการไอที วงการเกมก็จะไม่มีอุปกรณ์ดี ๆ ในการพัฒนาวีดีโอเกมให้เราได้เล่นกัน และหากไม่มีวงการเกม ตลาดฮาร์ดแวร์และตลาดไอทีก็คงเงียบเหงากันน่าดู โดยเฉพาะกับตลาดคอนโซลที่หลาย ๆ ค่ายก็จะเสียโอกาสในการทำรายได้จากส่วน ๆ นี้ไป

และในปี 2018 นั้นถือว่าเป็นอีกปีนึงที่มีเทคโนโลยีในวงการเกมออกมาไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ส่วนใหญ่แล้วเทคโนโลยีเหล่านี้จะเป็นการ “สะสมพลัง” จากปีที่ผ่าน ๆ มา จนมาประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมเอาปีนี้ ในทางกลับกันนั้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็ใช่ว่าจะไม่มีเช่นกัน เพียงแต่อาจจะมีจำนวนไม่ค่อยเยอะหากเทียบกับปีที่ผ่าน ๆ มา

เพราะฉะนั้นในบทความนี้ทาง GamingDose จึงจะมาแนะนำ “5 เทคโนโลยีสุดเจ๋งแห่งวงการเกมประจำปี 2018” จะมีเทคโนโลยีอะไรที่เคยผ่านหูผ่านตาคุณบ้างไหม หรือจะมีเทคโนโลยีอะไรที่น่าสนใจกันบ้างนั้น เรามาดูกันเลยดีกว่าครับ

Nvidia RTX Ray Tracing

ก่อนอื่นเราต้องอธิบายกันก่อนว่าเทคโนโลยี Ray Tracing นั้นไม่ใช่ของใหม่ และถูกใช้งานมาในวงการของคอมพิวเตอร์กราฟิกมานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Animation, Visual Effects หรือ Modelling ที่ได้ใช้เทคโนโลยีในการสร้างกราฟิกที่สมจริงและสวยงาม โดยเจ้า Ray Tracing จะเป็นเทคโนโลยีทางด้านแสงเงา ที่จะสร้างภาพตกกระทบให้มีความสมจริงและสวยงามมากยิ่งขึ้น

ซึ่งสำหรับวงการเกมแล้วนั้น ก็… ก็ไม่ใช่ของใหม่อยู่ดี เพราะเทคโนโลยี Ray Tracing ใช้กับวงการเกมมาอย่างยาวนานแล้วเช่นเดียวกัน เพียงแต่เรื่องของวัตถุตกกระทบอะไรอาจจะไม่ได้สมจริงหรือสวยงามขนาดนั้น แต่ก็ถือว่าก่อนหน้านี้ก็มีการใช้เทคโนโลยี Ray Tracing เช่นเดียวกัน

แต่ในปีนี้เราจะได้ใช้เทคโนโลยี Ray Tracing ที่มีความสมจริงและสวยงามที่สุดสำหรับตลาดเกมเมอร์จากทาง Nvidia กับการ์ดจอซีรี่ส์ใหม่อย่าง “RTX 2000 Series” ที่พวกเขาได้หยิบเทคโนโลยีที่จากการ์ดจอฝั่งทำงานกราฟิก (Quadro) อย่าง “RTX Ray Tracing” มาใช้งานกับการ์ดจอสำหรับตลาดเกมเมอร์ โดยได้มีการเพิ่มหน่วยประมวลผลภาพสำหรับ Ray Tracing โดยเฉพาะ ที่ถือว่ามีราคาถูก… ใช่ครับถึงราคามันจะมหาโหดสำหรับเกมเมอร์ แต่กับการ์ดจอเทคโนโลยีที่รองรับ RTX Ray Tracing ที่ขั้นต่ำราคาก็ล่อไป 70,000 บาทก็ถือว่าอยู่ในระดับที่โอเค เพราะตัวการ์ดจอฝั่งเกมมิ่งที่รองรับเทคโนโลยีนี้มีราคาอยู่ที่ช่วง 30,000-50,000 บาทเท่านั้น

แต่สิ่งหนึ่งที่เราสังเกตได้จากเทคโนโลยีนี้ Ray Tracing ยังอยู่ในระดับของ “หนูลองยา” สำหรับตลาดเกมเมอร์ เพราะหลาย ๆ เกมก็ยังคงไม่สนับสนุนระบบ RTX Ray Tracing ตัวนี้ แถมตัวเทคโนโลยียังถือว่ามีราคาที่แพงเกินไปอยู่ ถึงแม้เราจะบอกว่าราคามันถูกหากเทียบกับ Quadro ก็ตาม แต่เนื่องจากการ์ดจอซีรี่ส์ RTX 2000 กับ Quadro มันถูกออกแบบให้มีการใช้งานที่แตกต่างกัน ทำให้สำหรับมุมมองของเกมเมอร์ก็ถือว่าไม่แปลกที่จะมองว่าเทคโนโลยีตัวนี้มันมีราคาแพงเกินไป ซึ่งของแบบนี้ยิ่งนานไป ราคาย่อมยิ่งถูกลงเรื่อย ๆ เฉดเช่นเดียวกับอีกเทคโนโลยีนึงที่เราจะพูดถึงกันในบทความนี้

ถึงแม้เทคโนโลยี RTX Ray Tracing อาจจะไม่ใช่เทคโนโลยีที่คนกลุ่มใหญ่ที่สามารถเข้าถึงได้ และยังคงมีราคาที่สูง แต่กับการประชาสัมพันธ์บวกกับการนำเสนอที่เรียกได้ว่าได้กระตุ้นต่อมกิเลสของเหล่าเกมเมอร์เป็นจำนวนมาก ทำให้เทคโนโลยี RTX Ray Tracing จึงติด 1 ใน 5 จากเราไปครับ

Xbox Game Pass

คุณรู้จักบริการประเภท Subscription ไหม หากไม่รู้จักเราก็จะขอเกริ่นสักเล็กน้อย บริการ Subscription เป็นบริการที่พูดภาษาบ้าน ๆ ได้ว่า “จ่ายรายเดือนเพื่อฟังเพลง ดูหนัง ดูซีรี่ส์ได้ไม่อั้น” ไม่ว่าจะเป็น Spotify, Netflix, Apple Music โดยเจ้าบริการเหล่านี้ถือว่าเป็นบริการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุคนี้ เนื่องจากมีราคาที่ถูกแต่สามารถเข้าถึงเนื้อหาได้มหาศาล และที่สำคัญที่สุดคือเนื้อหาเหล่านี้เป็นของแท้ถูกลิขสิทธิ์ ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเป็นพันเป็นหมื่นเพื่อดูภาพยนตร์ที่อยากดู ฟังเพลงที่อยากฟังอีกต่อไป เพราะเพียงแค่คุณจ่ายเพียงเดือนละหลักร้อยบาทคุณก็จะสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้แล้ว แถมยิ่งคุณหารกับเพื่อนของคุณ (Family Pack) คุณก็จะสามารถเข้าถึงบริการเหล่านี้ได้ด้วยเงินเพียงแค่หลักสิบบาทเท่านั้น

พอได้ฟังแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่ามันเป็นบริการที่ดูดีและโอเคมาก ๆ ใช่ไหมล่ะครับ ใช่ครับ การจ่ายเพียงแค่ไม่กี่บาทเพื่อเข้าถึงเนื้อหาได้ทั้งหมดถือว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่าและดีต่อใจผู้บริโภคเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าทำไมบริการดี ๆ แบบนี้ถึงไม่มีกับ “วงการเกม” กันบ้างล่ะ ?

ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ทำให้ทาง Microsoft ได้เปิดตัวบริการใหม่ของเขานามว่า “Xbox Game Pass” ที่ถือได้ว่าเป็นระบบ Subscription ที่เราจะสามารถเข้าถึงคลังเกมขนาดใหญ่จากทาง Microsoft และสามารถเล่นเกมได้แบบเป็นบุฟเฟ่ต์ไม่อั้นเพียงแค่ราคาหลักร้อยบาทต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งบริการนี้ก็ได้ถูกเปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2017 จนมาในปี 2018 ที่คลังเกมของ Xbox Game Pass ก็เริ่มอัดแน่นไปด้วยเกมดีเกมใหญ่จำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับมีการพัฒนาระบบให้ใช้งานได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยสามารถใช้งานได้กับ PC และ Xbox One

โดยเกมที่อยู่ในคลังของ Xbox Game Pass ก็จะมีตั้งแต่เกมอินดี้ยันเกมระดับ AAA กันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Fallout 4, The Elder Scroll Online, Halo Wars 2, Bayonetta, Bioshock, Forza Horizon 4 และเกมอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้คุณสามารถเข้าถึงได้ในราคาไม่ถึงหลักพันต่อเดือน !! เรียกได้ว่าหากคุณมีเวลาว่างอย่างน้อยแค่เดือนเดียว บริการ Xbox Game Pass จะมอบความสุขให้กับคุณอย่างคุ้มค่าเกินราคาอย่างแน่นอนครับ

Xbox Adaptive Controller

ขอยกให้เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกประทับใจที่สุดของปีนี้ กับสุดยอดเทคโนโลยีจากทาง Microsoft ที่จะทำลายกำแพงในการเข้าถึงวีดีโอเกมของ “ผู้พิการ” ให้หมดไป เมื่อเทคโนโลยีตัวนี้จะทำให้ผู้พิการสามารถสนุกไปกับวีดีโอเกมได้ราวกับคนปกติทั่วไป ขอเชิญทุกท่านพบกับ “Xbox Adaptive Controller”

Xbox Adaptive Controller เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมในการเล่นเกมต่าง ๆ ที่ได้ออกแบบให้ผู้พิการสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น หรือหากให้พูดง่าย ๆ มันก็คือ “จอยสำหรับคนพิการ” นั้นเอง โดยตัว Controller จะถูกออกแบบให้สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องใช้งานนิ้ว และสามารถใช้ฝ่ามือหรือข้อมือในการควบคุมได้เลย เพราะเกมเมอร์ที่พิการส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาเรื่องการควบคุมข้อมือ (แขนขาด, แขนด้วน, มืออ่อนแรง) เรียกได้ว่านี่คือสิ่งที่สามารถเรียกได้เต็มปากว่า “นวัตกรรม” อย่างแท้จริง

ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีประโยชน์ต่อเกมเมอร์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับเกมเมอร์ที่พิการแล้วนั้น หาก Xbox Apaptive Controller ไม่ติด 1 ใน 5 จากเราไป เราก็คงรู้สึกไม่ดีแน่ ๆ ที่เราได้พลาดเจ้าเทคโนโลยีอันแสนวิเศษและมีประโยชน์ต่อมวลเกมเมอร์ตัวนี้ไปครับ

Nintendo LABO

หากเราพูดถึงคำว่าเทคโนโลยีและนวัตกรรมโดยเฉพาะกับวงการเกมแล้วนั้น นอกจาก Microsoft แล้ว อีกค่ายนึงที่ขาดไปไม่ได้ก็คือคุณปู่แห่งวงการเกมอย่าง “Nintendo” นั้นเอง ที่ในปี 2018 พวกเขาได้มาพร้อมกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมโลกตะลึง กับไอเดียสุดเจ๋งในการนำของราคาถูก ๆ ในสายตาของคนทั่ว ๆ ไป มาใส่ไอเดียและพัฒนากลายเป็นสินค้าที่มีราคาได้อย่าง “Nintendo LABO”

Nintendo LABO เป็นอุปกรณ์เสริมที่ใช้วัสดุหลักเป็น “ลังกระดาษ” ซึ่งคุณฟังไม่ผิดหรอก มันคือลังกระดาษจริง ๆ โดยมันเป็นลังกระดาษที่คุณสามารถตัด แกะ แปะ และนำไปประกอบเป็นสิ่งต่าง ๆ เพื่อนำไปเล่นเกมของทาง Nintendo ได้ !! โอ้โหนี่มันโคตรเจ๋งเลย

โดยหลักการทำงานของมันก็จะแล้วแต่ประเภทของ “Toy-Con” (ชื่อเรียกที่เราจะใช้เรียกร่างประกอบจากลังกระดาษของ Nintendo LABO) ซึ่งแต่ละประเภทจะต้องใช้ฟีเจอร์ Joy-Con เป็นส่วนประกอบในการทำให้เจ้า Toy-Con สามารถใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็น IR Camera ที่ใช้ในการจับความลึกและระยะทาง เพื่อส่งเสียงออกมาเป็นตัวโน้ต (Piano) หรือจะเป็น HD Rumble ที่จะทำให้รถนั้นขยับไปตามทิศทางด้วยแรงสั่นจากตัว Joy-Con (IC Car) ซึ่ง Toy-Con บางชิ้นก็จะใช้หลาย ๆ ฟีเจอร์ของตัว Joy-Con เพื่อให้ตัวของมันสามารถทำงานได้

Nintendo LABO มีสามแบบให้ได้เล่น ไม่ว่าจะเป็น Variety Kit ที่จะเน้นความหลากหลายและโชว์ศักยภาพของตัว Nintendo LABO เอง Robot Kit ที่จะเปลี่ยนลังกระดาษให้เป็นชุดหุ่นยนต์ที่สามารถนำไปเล่นเกมได้จริง ๆ และ Vehicle Kit ที่จะเปลี่ยนลังกระดาษกลายเป็นยานพาหนะ และสามารถนำไปใช้ในการควบคุมยานพาหนะในเกมได้ โดยเฉพาะกับ Mario Kart 8 : Deluxe ที่รองรับ Nintendo LABO อย่างเต็มรูปแบบ

ถึงแม้ Nintendo LABO อาจจะไม่ใช่เทคโนโลยีที่เหมาะกับทุกคน ด้วยเรื่องความทนทานและอายุการใช้งาน (ถึงแม้จะมีไฟล์ให้ไปพิมพ์ใหม่ได้ก็ตาม) แต่ด้วยการนำเสนอและการใช้งานที่เรียกได้ว่าเจ๋งเป้งและเรียกได้เต็มปากว่าเป็นนวัตกรรมจริง ๆ ทำให้ เจ้าลังกระดาษวิเศษจากปู่นินนี้ติด 1 ใน 5 จากเราไปอย่างไม่ต้องสงสัยครับ

Solid State Drive (SSD)

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้มีอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ตัวใหม่ที่เริ่มแพร่หลายกันมากขึ้น โดยเป็นการต่อยอดไอเดียจาก HDD หรือที่เรารู้จักกันดีในนามของ “ฮาร์ดดิสก์จานหมุน” มาย่นขนาดให้เหลือเพียงแค่แผงชิปข้อมูลและมีความเร็วในการอ่านเขียนที่สูงกว่า HDD เป็นอย่างมาก โดยเทคโนโลยีตัวนี้ถูกเรียกว่า “Solid State Drive” หรือที่เรารู้จักกันในนามของตัวย่ออย่าง “SSD” ซึ่งเทคโนโลยีนี้ได้เริ่มแพร่หลายเป็นอย่างมากในช่วงปี 2017-2018 นี้ เนื่องจากราคาที่ถูกลงเรื่อย ๆ และเป็นฮาร์ดแวร์ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์อย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้การทำงานของมันจะช่วยในทางอ้อมก็ตาม

โดยจุดเด่นของ SSD ก็คือความเร็วในการเขียน/อ่านข้อมูลที่ฉับไวและรวดเร็วกว่า HDD อย่างมหาศาล ยิ่งหากเอามาติดตั้งตัวระบบปฏิบัติการก็จะสามารถ Boot เครื่องได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น แถมยังสามารถเขียนไฟล์และอ่านไฟล์ 4K ได้อย่างสะดวกและไม่ติดขัด จนกลายเป็นฮาร์ดแวร์ที่เขาว่ากันว่าเป็น “ของที่ต้องมีในยุคนี้” แถมยังมีการบอกกันว่าหากคุณได้ใช้แล้ว คุณจะไม่อยากย้อนไปใช้ฮาร์ดดิสก์จานหมุนอีกเลย

นอกจากนี้แล้วในแง่ประโยชน์ใช้สอยที่มีผลต่อเกมเมอร์ก็คงก็หนีไม่พ้น “การโหลด” ที่เกมใหม่ ๆ สมัยนี้มีข้อมูลที่ขนาดใหญ่มากขึ้น จนตัว HDD อาจจะอ่านไฟล์ได้ไม่ไวและอาจจะทำให้เกิดอาการ FPS ตกฮวบชั่วขณะจากการโหลดของข้อมูล ซึ่งปัญหานี้ก็ถูกแก้ไขได้ง่าย ๆ เพียงคุณใช้ SSD ในการติดตั้งเกมเหล่านี้ ซึ่งเราขอบอกไว้ก่อนว่าเจ้า SSD จะทำให้อาการ FPS ตกฮวบหายไปเท่านั้น และไม่ได้มีผลต่อการเพิ่มจำนวนของ FPS แบบที่ใครหลาย ๆ คนเข้าใจกัน เพราะของแบบนี้มันเป็นหน้าที่ของ CPU และ GPU ต่างหาก

แต่ว่าปัญหาของตัว SSD ที่มีข้อเสียอันใหญ่หลวงก็คือ “ราคาต่อความจุแพงมาก” ยิ่ง SSD ที่มีความจุใหญ่ ๆ ระดับ 1-2TB ก็จะมีราคาสูงถึงหลักหมื่น กลับกันในฝั่งของ SSD ที่มีขนาด 120-250GB ที่ถึงแม้จะมีราคาที่จับต้องได้บ้าง แต่กับเกมเกรด AAA สมัยนี้ที่มีขนาดไฟล์เกมใหญ่ระดับ 50-60GB และมีแนวโน้มที่จะเพื่มขนาดเรื่อย ๆ ทำให้ SSD ราคาถูก ๆ ลงเกมได้แค่ไม่กี่เกมก็เต็มเสียแล้ว ซึ่งปัญหานี้ก็จะหมดไปในปีหน้า เมื่อ Samsung ได้ส่งเจ้า QVO Series ที่มาพร้อมกับจำนวนความจุที่เยอะมหาศาลในราคาที่ถูกลงเป็นอย่างมาก

โดยถึงแม้ Solid State Drive จะไม่ใช่ของใหม่และเปิดตัวกันมานานแล้ว แต่ด้วยราคาของเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ถูกลงเรื่อย ๆ ทำให้ในปี 2018 ถือว่าเป็นปีที่ SSD ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเนื่องด้วยประสิทธิภาพและความคุ้มค่าที่เอ่อล้น จนเกมเมอร์หลาย ๆ คนต่างบอกแทบจะเสียงเดียวกันว่า SSD คือของที่เหล่าเกมเมอร์ต้องมีใช้กันเลยล่ะครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับ “5 เทคโนโลยีสุดเจ๋งแห่งวงการเกมประจำปี 2018” มีเทคโนโลยีตัวไหนบ้างที่คุณเคยเห็นกันบ้าง โดยเราจะสังเกตได้ว่า 3 ใน 5 ที่ติดอันดับนี้นั้นก็ไม่ใช่เทคโนโลยีสดใหม่ที่เพิ่งมาเอาปีนี้ แต่ด้วยความสำเร็จและความพร้อมที่ได้เกิดขึ้นชัดเจนในปี 2018 แล้วนั้น ทำให้เราต้องบอกได้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้เป็นเทคโนโลยีที่ถึงเวลาของมันอย่างแท้จริงครับ

0 item total: 0 บาท