บนโลกปัจจุบัน มีเกมสองเกมที่ผู้เล่นจับตามองมากที่สุดนั่นคือ Death Stranding โดย Kojima Productions และ Cyberpunk 2077 โดยทีม CD Projekt RED ซึ่งทั้งสองเกมยังไม่มีวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และเชื่อว่าหลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเกมเหล่านั้นถึงน่าจับตามองที่สุดในวงการเกมตอนนี้

หลังจากเรา อธิบายสาเหตุของเกม Death Stranding ไปแล้ว รอบนี้จะเป็นบทความไขปริศนาว่าทำไม Cyberpunk 2077 ถึงเป็นเกม RPG ที่หลายคนรอคอย

ผลงานล่าสุดของ CD Peojekt RED

ผลงานเด่นของทีมพัฒนาเกม CD Projekt RED มีเพียงแค่มหากาพย์ซีรีส์ The Witcher เท่านั้น ซึ่งผลงานดังกล่าวซื้อลิขสิทธิ์มาจากนิยายของคุณ Andrzej Sapkowski จากเรื่อง The Witcher ตรงตามชื่อไตเติ้ลเกม

แต่สำหรับเกมนี้จะแตกต่างจากเกมอื่นทั่วไป เพราะเกมดังกล่าวมีต้นแบบมาจากบอร์ดเกมคลาสสิกชื่อว่า ‘Cyberpunk’ และถือเป็นผลงานชิ้นที่สองของทีมงานที่ไม่ใช่ซีรีส์ The Witcher ทำให้เกมนี้สามารถครองใจเกมเมอร์สาวก CDPR และผู้เล่นเกมที่ชื่นชอบภาพยนตร์ Sci-Fi ฉบับบ้านป่าเมืองเถื่อนได้ไม่ยาก

ระบบเกม RPG แบบ ‘หมุนรอบตัวผู้เล่น‘

แม้ว่าระบบเกม RPG ของ The Witcher จะครอบคลุมและมีความลึกที่โดนใจเกมเมอร์สาย RPG ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตัดสินใจ, ระบบสกิล, การตกแต่งตัวละคร และอื่น ๆ อีกมากมายที่ล้วนมีคุณภาพสมบูรณ์แบบสมกับเป็นเกมค่าย CDPR

แต่เนื่องจากเกมซีรีส์ The Witcher ผู้เล่นต้องรับบทเป็น Geralt of Rivia ทำให้ตัวเกมอาจมีการจำกัดความอิสระบางอย่าง ฉะนั้นเกมนี้ถือพร้อมจะมอบประสบการณ์เกม RPG ที่ให้อารมณ์แบบ ‘โลกหมุนรอบตัวเอง‘ อย่างแท้จริง

ผู้เล่นจะได้รับเป็น V ทหารรับจ้างที่เปรียบเสมือน ‘คุณ‘ เข้ามาแสวงโชคในเมือง Night City โดยเกมเมอร์สามารถกำหนดได้ว่ามีประวัติพื้นหลังของตัวละครเป็นอย่างไร (ส่งผลให้มีฉาก Intro แตกต่างกัน) , เลือกเพศแม่หรือเพศผู้, สไตล์การใช้อาวุธ, ลักษณะร่างกาย, ทรงผม, การแต่งตัว ทุกอย่างผู้เล่นสามารถกำหนดได้เอง

หรือแม้กระทั่งสามารถเข้าร่วมทำงานกับฝั่งไหนก็ได้ ที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้เล่นมากที่สุด คุณอาจจะเป็นมิตรกับพวกเขาช่วงแรกแล้วทรยศหักหลังในช่วงหลัง หรือเป็นศัตรูในวันนี้ เป็นมิตรในวันหน้า, ใช้วิถีสันติภาพหรือความรุนแรงในการแก้ปัญหา ทั้งหมดขึ้นอยู่ความต้องการของเกมเมอร์ว่าต้องการเล่นแบบไหน

แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือระบบเควสของเกม ซึ่งทีมงาน CDPR ทุ่มเทสร้างมากที่สุด โดยกล่าวคุณสมบัติว่าแม้เกมเมอร์จะเล่นมิชชั่นได้แย่มากน้อยแค่ไหน ตัวละครเด่นจะตายไปกี่คน แต่โลกของ Night City ยังคงหมุนต่อไป

การดำเนินเควสของเกมนี้จะไม่มีฉาก Game Over หรือ Mission Failed ให้เริ่มเล่นมิชชั่นใหม่อีกรอบ แต่เนื้อเรื่องเกมจะดำเนินต่อเนื่องโดยจะส่งผลกระทบต่อฉากจบ ซึ่งระบบนี้ไม่สามารถทำกันง่าย ๆ และมีน้อยเกมที่จะกล้าออกแบบมิชชั่นได้ลึกขนาดนี้ (ล่าสุดคือเกม Fallout: New Vegas)

Cyberpunk 2077 นับว่าเป็นเกมที่มีระบบ RPG แข็งแกร่ง, จัดเต็มครบทุกความต้องการ, และซับซ้อนกว่าเกม The Witcher 3 ถึง 3-5 เท่า หรือเกมอื่น 6-10 เท่า

เกมพัฒนาอย่างพิถีพิถัน เพื่อ Cyberpunk ที่ดีที่สุด

ช่วงเวลา 6-7 ปีที่ผ่านมา หลังการวางจำหน่ายเกม The Witcher 3 อย่างเป็นทางการ ทีมงานเริ่มมุ่งหน้าพัฒนาเกม Cyberpunk 2077 อย่างเต็มกำลัง โดยมีเป้าหมายชัดเจนว่าจะทำเกม Cyberpunk ที่ดีที่สุด

ผลลัพธ์ออกมาใน Trailer – E3 2018 จึงทำให้เกมสามารถนำเสนอโลก Cyberpunk 2077 ได้มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร

เช่น ฉากเซตติ้งในช่วงเวลาอนาคตช่วงปี 2077, โลกมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยแต่สถานะความเป็นอยู่เหลื่อมล้ำ, การแบ่งโซนคนจนคนรวย, สถานีรถไฟฟ้าสุดเก๋, ทุกคนแต่งผมทรง Mohawk และองค์ประกอบโดดเด่นอื่น ๆ อีกมากมายที่ตรงตามทฤษฎีงานศิลปะธีม Cyberpunk

ทีมงาน CDPR ได้ศึกษาหาแรงบันดาลใจเพื่อสร้างเกมให้สมเป็น Cyberpunk จริง ๆ พวกเขาเรียนรู้วิธีการนำเสนอจากภาพยนตร์เรื่อง BLADE RUNNER 2049, Ghost in The Shell, Akira และวิดีโอเกมอย่าง System Shock กับ Deus Ex ที่มีลักษณะการนำเสนอค่อนข้างใกล้เคียง

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าการนำเสนอจะเพอร์เฟคหมดทุกอย่าง เพราะคุณ William Gibson เจ้าพ่อนิยาย Cyberpunk ได้ออกมาวิจารณ์ถึงการนำเสนอตัวเกมว่ามัน ‘Cyberpunk ไม่พอ!’