จากการเปิดตัวของภาค 3 เชื่อว่าแฟน ๆ ซีรีส์ Borderlands น่าจะรู้สึกตื่นเต้นกันพอสมควร เพราะพวกเขารอคอยมานานแสนนาน ในที่สุดก็นับเลข 3 สักที  เชื่อไหมว่า ภาค 2 ที่ปล่อยวางจำหน่ายในเดือนกันยายนปี 2012 ณ ตอนนี้ยังมีคนเล่นอยู่เลย ดังที่เห็นจากข่าวในเว็บไซต์ GamingDose ว่ามียอดผู้เล่นรวมแล้วมากกว่าหนึ่งล้านคนต่อเดือนเป็นเวลากว่าหกปีแล้ว

แล้วอะไรคือปัจจัยที่ทำยังมีคนเล่นอยู่ แถมรอคอยภาค 3 จนอยู่ทุกวันนี้ วันนี้เรามาหาคำตอบกัน

ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อน สำหรับคนที่ไม่รู้จักซีรีส์นี้

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เกมเมอร์รู้จักกับ Borderlands ภาคแรกในปี 2009  เกมที่ประสานความเป็น FPS หรือ First Person Shooter เข้ากับเทรนด์ยอดนิยมในตอนนั้นอย่าง RPG ตัวเกมก็เลยมีระบบเลเวลและสกิล แถมคลังแสงที่แสนจะพิสดารและมีมากมายมหาศาล ด้านเนื้อเรื่องเรารับบทเป็น Vault Hunter ไปผจญภัยที่ต่า ๆ ในโลก Pandora

เอาละเรามาดูกันว่า ทั้ง ๆ ที่ก็มีหลาย ๆ เกม ที่เป็นแนว Loot Shooter เหมือนกัน ทำไมเกมนี้ยังคงความน่าเล่นไว้

ความ BadAss ที่แสนบริสุทธิ์

หนึ่งในแง่มุมที่ดีที่สุดของ Borderlands 2 คือการไม่เคยพยายามเป็นอย่างที่มันเป็น หัวใจหลักของเกมนี้คือความบ้า ๆ บอ ๆ ของบทที่เหนือชั้น ตัวละครเอกของเรื่องที่น่าจดจำที่สุดกลับไม่ใช่ฝ่ายเรา (จริงก็มีเจ้า Claptrap แหละที่เราชอบความต๊องของมัน) แต่เป็นตัวร้าย Handsome Jack หนึ่งในตัวละครที่ไร้สาระที่สุดในวงการเกม ไม่ว่าจะฟังมุขตลกของมันตลอดเวลาในการผจญภัยบนโลก Pandora เจอเหตุการณ์ที่พร้อมจะหักมุมได้ทุกเมื่อ และศัตรูในเกมที่ไม่รู้ไปซู๊ดอะไรมา ทำให้เราหัวเราะกับความเกรียนของมันมาก ๆ ไอ้ความไร้เหตุผลในทุกแง่มุมของเกมนี้ทำให้เกิดเสน่ห์ที่ยากจะมองข้าม และทำให้เราอยากที่จะเสพความไร้สาระแบบนี้ไปเรื่อย ๆ

DLC ที่เปรียบเหมือนของหวานที่แสนอร่อย

มันเป็นเทรนสมัยนี้ไปแล้วสำหรับเกมระดับ AAA มักจะต้องมี DLC เพิ่มเติมเพื่อหาเงินเพิ่ม และบ่อยครั้งที่นักพัฒนาและผู้เผยแพร่มักจะปล่อยเกมตัวเต็มที่ดูสมบูรณ์บ้าง ไม่สมบูรณ์บ้าง ดังนั้นเราจะเห็น DLC สมัยนี้ขาย Costume ไอเท็มต่าง ๆ หรือที่แย่กว่านั้น มันอาจขายเนื้อเรื่องเสริมมาขยายตัวเต็มที่ยังไม่สมบูรณ์ในตัว โชคดีที่ทาง Gearbox ทำแบบเดียวกับภาคแรก นั่นคือเกมตัวเต็มที่จบสมบูรณ์แบบในตัว และเทกระจาด DLC มาให้เราเลือกเล่นตามใจชอบ

ปล. DLC Tiny Tina’s Assault on Dragon Keep คือ DLC ที่ควรแก่การลองเล่นอย่างที่สุด

Skill Trees ที่หลากหลาย = เล่นในแบบของคุณ

แต่ละคลาสใน Borderlands 2 มี Skill Trees ที่แยกออกเป็น 3 ส่วน ที่เราสามารถจะมิกซ์และแมทช์กัน นั่นหมายความว่า ต่อให้เรากับเพื่อนเล่นตัวละครเดียวกัน แต่ Build ที่สร้างก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งความยืดหยุ่นที่หลากหลายนี่แหละ จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอยากผจญภัยหลาย ๆ ครั้งกับตัวละครที่เราเล่น เพื่อทดสอบว่าตัวละครที่เราสร้างมาเก่งแค่ไหน

ด้วยสกิลที่แตกต่างกันมากมายให้เลือก Borderlands จึงเป็นเกม Shooter ที่รับรางวัลอย่างมากมาย และแทบจะไร้ศัตรูในวงการเกม

Co-Op ที่ดีที่สุด

การเล่น Co-Op ดูเหมือนจะเป็นส่วนนึงในการพัฒนาเกม AAA ในสมัยนั้น เพราะความสำเร็จของเกม Co-op รุ่นแรก ๆ ในคอนโซลรุ่นก่อน ได้ผลักดันให้อุตสาหกรรมสร้างความต้องการ Co-op มากขึ้น

Borderlands 2 เป็นเกมที่ตอบโจทย์คำว่า Co-op ได้ดีเยี่ยมถึงขั้นตำนาน แต่กลับตกมาตายในเรื่องของโหมดการเล่นคนเดียว ดังนั้น ถ้าอยากจะได้รับประสบการณ์ Co-op ที่แท้จริง เกมนี้คือ The Best Choice For YOU

Boss Fights ที่น่าจดจำ

Boss fights ในเกมส่วนใหญ่ บางครั้งเราก็ชอบ บางครั้งเราก็เกลียดขอเจอแค่ทีเดียวพอ, แต่บ่อยครั้งที่ความทรงจำเกี่ยวกับสู้บอสในหัวเรา กลับจางหายไปอย่างง่ายดาย บอสของ Borderlands 2 นำเสนอการต่อสู้ได้ค่อนข้างน่าสนใจ ถึงขนาดว่าบางครั้งเราอาจนึกขำไปกับมัน การเปิดตัวของบอส หรือจุดจบของบอส ก็เป็นอะไรที่ทำให้เราบันเทิงได้ แต่ละตัวมีเอกลักษณ์และมีมุขไม่ซ้ำกัน รวมถึงการส่งกระสุนสั่งลานัดสุดท้าย พร้อมกับนั่งรอดูไอเท็มที่ไหลออกมาเป็นน้ำพุ ก็เป็นอะไรที่เจ๋งดีเหมือนกัน

จริง ๆ ไม่ใช่แค่บอสอย่างเดียว พวกศัตรูต่าง ๆ ก็มีความหลากหลายสูงพอสมควร เราจะไม่ได้แค่เจอมนุษย์อย่างเดียวส จะมีทั้ง หุ่นยนต์ สัตว์ประหลาด รวมถึงอมนุษย์ด้วย โดยเจ้าพวกนี้ต่างก็มีวิธีจัดการแตกต่างกัน เช่น หุ่นยนต์แพ้ธาตุพิษ เราก็ควรจะมีอาวุธธาตุพิษติดตัวไว้ หรือมินิบอส ที่ขึ้นต้นชื่อว่า Badass ต่าง ๆ ก็โหดและท้าทายเหมือนกัน

คลังแสงที่เยอะมโหฬาร

คุณชอบ Loot ไหม ? เดี๋ยวนะ ต้องถามว่า คุณชอบปืนมั้ย แน่นอน คุณก็ต้องชอบสิ บางทีเหตุผลใหญ่ ๆ ข้อเดียว ที่เรากลับมาเล่น Borderlands 2 คือจำนวนปืนที่หลากหลายที่คุณสามารถค้นหาได้ตลอดเส้นทางการผจญภัยของคุณ

Borderlands 2 มอบประสบการณ์ให้อาวุธที่มีความหลากหลายให้คุณเลือก ไม่ว่าจะเท่ไปจนถึงเอาฮาอย่างเดียว เป็นระบบที่หยืดหยุ่นมากสำหรับตัวละครเรา ทำให้เกิดแนวทางการเล่นได้หลากหลาย และ Gearbox ไม่ได้ล้อเล่นเมื่อพวกเขาพูดคำว่า “อาวุธน่าทึ่งจำนวนนับล้านกระบอก ! “