ถ้าหากจะกล่าวว่าตลาดเกมไทยในยุค PlayStation 1 นั้นมีความเป็นเอกเทศมากกว่าประเทศอื่น ๆ ก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะมีหลายเกมที่ผู้เล่นชาวไทยชื่นชอบและได้รับความนิยม แต่ในตลาดโลกนั้นกลับขายได้ไม่ดี ซึ่งในวันนี้เราจะมาย้อนอดีตเล่าถึงเกมเพื่อการโฆษณาที่เหล่าเด็กหนวดน่าจะคุ้นเคยกันดีอย่าง Pepsiman กันครับ

ก่อนอื่นต้องสารภาพกันก่อนว่าตัวของผู้เขียนนั้นมีความคิดที่จะเขียนถึงเกม ๆ นี้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นมีสิ่งอื่นดึงดูดความสนใจไป ก็เลยกลายเป็นว่าลืมไปเสียสนิท แต่พอได้เห็น YouTuber เกี่ยวกับเกมเก่าเจ้าดังอย่าง Angry Video Game Nerd พูดถึงเกมนี้ เลยคิดว่าน่าจะหยิบเอาเจ้าเกมนี้มาพูดถึงบ้างก็คงเป็นการดี

ย้อนอดีตกลับไปในปี 1999 ในยุคที่ร้านเช่าเกม PlayStation ยังมีอยู่มากมายเป็นดอกเห็ด เครื่องไหน ๆ ต่างก็เปิดเกมสามัญประจำเครื่องอย่าง Winning Eleven เตะบอลจอเขียวกันเต็มไปหมด แต่ก็มีบางครั้งมีเกมแปลก ๆ แหลมมาบ้าง เช่น Bloody Roar, Syphon Filter และเจ้า Pepsiman นี่แหละ

Mirindaman ยอดมนุษย์น้ำส้มที่ชาวไทยน่าจะคุ้นเคยกันดี

ถามว่าทำไมเจ้า Pepsiman ถึงได้รับความนิยมเอาเรื่องในบ้านเรา ถ้าจะให้เดาก็คือในยุคนั้นมีภาพยนตร์โฆษณาทางทีวีที่ชื่อว่า Mirindaman ออกฉายพอดี และเจ้า Pepsiman เองก็เป็นเครื่องดื่มจากบริษัทเดียวกันกับ Mirinda ด้วย ซึ่งวูบแรกที่ผู้เขียนเองได้เห็นปกของเกม Pepsiman ก็แอบแปลกใจเล็กน้อย ว่าทำไมเจ้าฮีโร่ตัวนี้ถึงได้เหมือนกันนัก แต่ก็มาร้องอ๋อในภายหลังตามเหตุผลข้างต้นนั่นเอง

Pepsiman เป็นตัวละคร Mascot ของ Pepsi ในช่วงก่อนยุค 2000 ที่สร้างโดย Pepsi สาขาประเทศญี่ปุ่น

ซึ่งเดิมทีนั้นมันเป็นตัวละครที่สร้างมาเพื่อการโฆษณาของญี่ปุ่นโดยเฉพาะ และดังพอตัวในประเทศญี่ปุ่นเสียด้วย และการที่เจ้า Pepsiman นั้นมีชื่อเสียงอยู่ระดับหนึ่ง ทำให้ทาง Pepsi ประเทศญี่ปุ่นหาทางโปรโมทมันให้ดังกว่าที่เป็นอยู่ ด้วยการสร้างเกมให้มันซะเลย จึงกลายมาเป็นเกม Pepsiman อย่างที่เราได้เห็นกันนี่เอง

รวมโฆษณาของ Pepsiman ในยุครุ่งเรือง

Pepsiman ถูกพัฒนาโดย KID ค่ายเกมเล็ก ๆ จากประเทศญี่ปุ่น ด้วยงบประมาณในการสร้างที่ต่ำติดดิน ชนิดที่เรียกได้ว่าจะจ้างนักแสดงมีชื่อสักคนมาเล่นยังเป็นไปได้อย่างยากลำบาก ซึ่งพวกเขาก็ได้ Mike Butters มาเป็นนักแสดง (หรือนายแบบโฆษณา) ในช่วงวิดีโอของเกม ส่วนตัวโมเดลสามมิตินั้นได้คุณ Kotaro Uchikoshi มาเป็นผู้ออกแบบและปั้นโมเดลให้ และเป็นงานแรกของเขาหลังเข้ามาทำงานในบริษัท ทั้งที่หน้าที่และความถนัดของเขาคือการเขียนบทและวางแผนแท้ ๆ

แต่แม้จะมีอุปสรรคในเรื่องของการพัฒนาและงบประมาณอันน้อยนิด ในที่สุด Pepsiman ก็สามารถออกวางจำหน่ายได้สำเร็จในวันที่ 4 มีนาคมปี 1999 และเป็นเกมที่วางจำหน่ายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นอีกด้วย

ส่วนบ้านเราได้เล่นกันได้อย่างไรนั้น คำตอบก็มีเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือเล่นแผ่นเถื่อนกันนั่นเอง (ฮา)

Pepsiman เป็นเกม Action ที่เข้าใจได้ไม่ยาก ผู้เล่นมีหน้าที่แค่วิ่งไปในฉาก หลบอุปสรรคและเก็บกระป๋อง Pepsi มาให้มากที่สุด และอุปสรรคในฉากแต่ละอย่างนั้นก็จะทวีความโหดร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนเนื้อเรื่องในเกมก็แทบไม่มีอะไร แค่ไปทำหน้าที่ของฮีโร่ที่ดีในการส่ง Pepsi ให้กับคนที่เดือดร้อนอยากกินเท่านี้เอง

ในช่วงแรกของเกมนั้นน่าจะเป็นช่วงที่สนุกที่สุดแล้ว เพราะความยากนั้นยังไม่ยากจนเกินไป และยังมีมุกตลกสอดแทรกระหว่างฉากให้เห็นกันอยู่เรื่อย ๆ แต่พอพ้นด่านที่สองหรือสามเป็นต้นไป จู่ ๆ ตัวเกมก็ยากขึ้นแบบไม่มีเหตุผล ทั้งจำนวนอุปสรรคที่ต้องหลบก็มีมากขึ้น และฉากที่ออกแบบมาได้กวนประสาทมาก ๆ เรียกว่าเล่น ๆ ไปอาจมีอาการอยากปาจอยกันขึ้นมาได้เลย

Pepsiman นั้นแม้จะได้รับความสนใจจากผู้เล่นในบ้านเรามาก แต่ในตลาดเกมญี่ปุ่นนั้นกลับไม่ค่อยมีคนให้ความสนใจมากนัก

เพราะด้วยการที่ตัวเกมถูกสร้างมาเพื่อจุดประสงค์ในการโฆษณาอย่างชัดเจนอยู่แล้ว รวมกับเกมการเล่นซ้ำซากไม่ต่างจากเกมในอดีตอย่าง Paperboy หรือ Metro-Cross แถมยังมีตัวเปรียบเทียบอย่าง Crash Bandicoot ที่ดูดีและสนุกกว่ามาก และที่จริงแล้วตัวเกมมีแผนที่จะวางจำหน่ายในต่างประเทศด้วย แต่ทางทีมงานก็ไม่สามารถหาตัวแทนจำหน่ายได้ มันจึงกลายเป็นเกมหายากที่ไม่เคยมีการผลิตหรือจำหน่ายนอกประเทศญี่ปุ่นเลยจนจบยุคของเครื่อง PlayStation ไป

แต่แม้ Pepsiman จะไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนักในประเทศอื่น ๆ หรือแม้แต่ในญี่ปุ่นเอง มันกลับกลายเป็นเกมที่ผู้เล่นชาวไทยในยุค PlayStation 1 พูดถึงมากพอ ๆ กับเกมอย่าง Bloody Roar หรือ Harvest moon เพราะด้วยการออกแบบตัวละครที่แค่เห็นแวบเดียวก็จำได้ กับเกมการเล่นที่เข้าใจได้ไม่ยาก (แต่ยากเป็นบ้า) ทำให้เด็กไทยในยุคก่อนปี 2000 นั้นจดจำเจ้าฮ๊โร่ตัวสีเงินที่ปรากฏตัวมามอบความซาบซ่าให้กับผู้ที่เดือดร้อนได้ไม่ยาก และมันยังถูกหยิบมาพูดถึงอยู่เสมอจนทุกวันนี้

ปัจจุบันนี้ความนิยมของเจ้า Pepsiman ก็ได้เลือนหายไปตามกาลเวลา และก็ไม่น่าจะมีใครหยิบเอาตำนานชิ้นนี้มาสานต่ออย่างแน่นอน แต่ก็ถือว่าเป็นเกมที่อยู่คู่ความทรงจำของผู้เล่นชาวไทยมาจนถึงทุกวันนี้ครับ