Resident Evil 7 เกือบเป็นเกม Live Service และมี Microtransaction จนโปรดิวเซอร์เข้ามาโละทิ้งทำใหม่ทั้งแผง
เรื่องราวเบื้องหลังการสร้างเกมผีชีวะภาค 7 ที่ทำให้ตัวเกมกลับมาได้รับความนิยม และกวาดคำชมไปอย่างมากมายนั้น แท้จริงแล้วเกือบเป็นเกมแบบ Live Service แถมใส่ระบบ Microtransaction หรือการเติมเงินเข้าไปในเกมด้วย
เรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยโดยบทสนทนาของผู้ให้กำเนิดอย่าง Shinji Mikami และโปรดิวเซอร์อย่าง Jun Takeuchi ได้มานั่งคุยกัน และ Jun เผยว่า Capcom ในตอนนั้นต้องการให้เกมเป็นแบบนี้ จนกระทั่ง Jun ได้เข้ามาร่วมทีม และโละแผนการเหล่านั้นทิ้ง
เราได้รับคำสั่งว่า ทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ และมันยากมากสำหรับผู้กำกับในตอนนั้น เกมออนไลน์เนี่ยนะ !? เนื้อหาเสริมเนี่ยนะ !? เกม Live Service เนี่ยนะ !? แถมระบบเติมเงินเข้าไปอีก เราต้องทำเกม Resident Evil ที่มีระบบเหล่านี้ทั้งหมด !
จนกระทั่งช่วงปีใหม่ ประธานของ Capcom ได้เรียก Jun Takeuchi เข้าไปคุย พร้อมบอกว่าสภาพของ Resident Evil 7 ตอนนี้ ย่ำแย่มาก และไม่น่ารอด และขอให้เขาเข้ามาช่วยจัดการ
หลังจากเขาเข้ามารับงานหน้า เขาก็จัดการรื้อแผนเดิมของเกมทิ้งทั้งหมด เพราะเขาคิดว่า แก่นแท้ของ Resident Evil คือความสยองขวัญ ตัดระบบ Multiplayer ออก และตัดฟีเจอร์อีกมากมายที่ไม่จำเป็นทิ้งออกไปจนหมด
โชคดีที่ Jun Takeuchi คิดถูก เพราะเป็นแบบนี้ Resident Evil 7 จึงกลายเป็นเกมที่มียอดขายมหาศาลเป็นเบอร์ต้น ๆ ของทาง Capcom แถมยังได้รับคำชมอย่างมาก และความสำเร็จก็ถูกต่อยอดมาจนถึงภาค Village
ลองนึกสภาพดูว่า ถ้า Resident Evil 7 ดั้งเดิมเป็นเกมแบบเติมเงิน ขายโหมดออนไลน์ต่อเนื่อง สภาพมันจะออกมาเป็นแบบใดกัน..
0 item total: 0 บาท |